ศึกษาก่อนสะสม เหรียญเม็ดกระดุม ปี18 หลวงปุ่เม้า วัดสี่เหลี่ยม จ.บุรีรัมย์

ศึกษาก่อนสะสม เหรียญเม็ดกระดุม ปี18 หลวงปุ่เม้า วัดสี่เหลี่ยม จ.บุรีรัมย์ ***ไม่มีการสร้าง " เนื้อเงิน " มีการสร้างเพียงแค่เนื้อเดียว คือ เนื้อทองแดง เท่านั้น....

โดยตั้งเหตุผลและข้อสงสัยดังนี้...

1. ข้อ1 ตอนแรกก็สังสัย ว่า พระที่เป็นเนื้อพิเศษเนื้อเงิน เนื้อทองคำเนี่ย น่าจะสร้างก่อนเขาเลยสร้างแบบต้นๆเลย เพื่อที่จะทำตามออเด้อ ตามจำนวนสั่งจองหรือตามจำนวนกรรมการที่จะแจก นะครับ ที่นี้พอผมเกิดความสังสัย เพราะว่าเหรียญนี้เป็นเหรียญบล็อกปากแตกจมูกแตก แสดงว่าเหรียญนี้หรือเหรียญบล็อกปากแตกจมูกแตกนี้ เริ่มร้าวเริ่มมีปัญหาแล้ว ถ้าปั้มบ๊อยๆปั้มท้ายๆก็ไม่น่าจะมาปั้มเหรียญเนื้อพิเศษแบบนี้ เพราะว่าเหรียญเนื้อพิเศษน่าจะปั้มแรกๆ อันนี้เป็นข้อสังเกตุของตัวเองเป็นการคาดเดวของตัวเองเลยเกิดข้อสงสัยว่าเหรียญนี้เป็นเนื้อเงินจริงไหม
2. ข้อ2 ก็คือพยายามค้นหาประวัติ แล้วก็ถามคนรุ่นเก่าที่เขาเก็บสะสมมานาน ว่าเขาเคยเจอเคยมีไหม ก็ไม่มีใครยืนยันว่ามีการสร้างเนื้อเงิน ยิ่งทำให้สังสัยเข้าไปใหญ่ ก็เลยเอ๋า เพื่อเป็นประโยชน์กับการศึกษาในการสะสม ผมก็เลยเอาไปเช็คดูด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ก็ปรากฏว่า มีเงินแค่ 18 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเงิน 18 เปอร์เซ็นต์นี้ น่าจะแค่เงินที่ถูกฉาบผิวทองแดงไว้
* ทีนี้ ถ้าบอกว่า กรรมการสร้างเนื้อกะไหล่เงินไม่น่าใช่ครับ เพราะคำว่า กะไหล่เงินของการสร้างพระในยุคปีหนึ่งกว่าเนี่ย ก็คือสมัยก่อนจะเป็นเหรียญ ก็คือ 1.เหรียญรมดำ 2.เหรียญผิวไฟ 3.เหรียญกะไหล่ทอง 4.เหรียญกะไหล่เงิน ทีนี่คำว่า “กะไหล่เงิน” ในอดีตก็คือ เหรียญที่เขาเอาไปชุบนิเกิลให้เป็นสีขาว หรือภาษาวงการพระเขาเรียกว่า กะไหล่เงิน แต่คำว่ากะไหล่เงิน ไม่ได้หมายความว่า เขาไปกะไหล่เงินไปชุบด้วยเงิน แต่เขาจะเอาไปชุบนิเกิลนะครับ
* ทีนี้เหรียญนี้ถ้าเอาไปชุบเงิน แสดงว่าไม่ใช่กรรมวิธีของโรงงานทำยุคเก่า แสดงว่าคนยุคหลังเนี่ยแหละ จงใจเอาไปชุบเงิน เอาเป็นว่าคนยุคก่อนจะชุบด้วยเงินหรือจะชุบด้วยนิเกิล หรือชุบเงินจริง หรือไม่ก็แล้วแต่ แต่สามารถสันนิษฐานได้เลยว่า 1.น่าจะไม่ใช่การตั้งใจทำตั้งแต่ยุคแรกที่สร้างเหรียญนะครับ 2.ต้องดูด้วยว่าคนขายนะขายในราคาเนื้อเงินไหม คนขายรับประกันว่าเป็นเนื้อเงินไหม เพราะนี้คือการเอา “เนื้อทองแดงไปชุบเงิน แล้วขายเป็นเนื้อเงิน และในราคาเนื้อเงิน “ ต้องดูด้วยครับว่า เงื่อนไขการซื้อขายกันด้วยครับ ว่าตกลงซื้อขายกันยังไง…
* ที่ทำคลิปนี้มาก็ไม่ได้ว่า เจตนาจะโจมตีใครว่าใครขายใครไร นะครับ เพราะว่ามันเป็นความจริงเชื่อใจของผมเอง แล้วผมก็มีสปิริตพอ เพราะว่าผมขายให้ลูกค้าในราคา 10000 บาท ซึ่งขายไปตั้งแต่ ปี58 ซึ่งผมขายไปเขาในราคาเนื้อเงิน ทีนี้ก่อนที่ผมจะไปเช็คเนี่ย ผมมาวิเคราะห์อะไรหลายๆอย่างตามที่ผมได้พูดไว้ตั้งแต่ตอนแรกๆ แล้วครับ ผมสังสัยผมไม่สบายใจ ผมก็โทรไป ผมบอกว่าผมขอเช่าคืนได้ไหม ผมไม่สบายใจ ผมเช่าคืนมาในราคา 10000 บาท เช่าคืนมาก่อนจะเอาไปตรวจสอบครับผม โอเคพอผมเอาไปตรวจสอบแล้วปรากฎว่าเหรียญนี้ไม่ใช่เนื้อเงิน จริงๆ ผมรู้สึกว่าผมไม่บาปแล้ว ผมสบายใจแล้วเพราะผมเช่ากลับมาคืน ผมแสดงความรับผิดชอบแล้ว แต่สำหรับคนอื่นผมไม่รู้ครับว่า ขายกันไปเนี่ยจะแสดงความรับผิดชอบกันไหม………นะครับ
* เหรียญนี้ผมก็เช่ามาเพราะเคยประกวดมีใบประกาศนียบัตร ชนะที่ 1 มา 2 สมัย ซึ่งผมก็เช่ามาจากบุคคลท่านหนึ่ง ที่ดูน่าเชื่อถือแต่สุดท้ายพอผมได้เข้าไปสัมผัสลึกๆแล้ว บุคคลท่านนี้อันตรายไม่ควรคบหาด้วยเลย ผมก็เลยตีตัวออกห่างทันทีและไม่เข้าไปคบหาอีกเลย ฝากให้คิดครับ…………

*** เหรียญตัวอย่างนี้ เป็น เนื้อเงิน ที่คนบางกลุ่มอุปโลคขึ้น (อย่าไปหลงเชื่อครับ) ***